ประวัติความเป็นมาของวันฮัลโลวีน

1. ในคริสต์ศาสนา นิกายคาทอลิก Halloween เพี้ยนมาจากคำ All Hallows Eves ซึ่งแปลว่า วันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย

โดยมีงานรื่นเริงและพิธีกรรมทางศาสนาเช่นเดียวกับคืนคริสต์มาส ซึ่งตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมเชื่อว่ามีที่มาจากวันฉลองปีใหม่ของชาวเซลท์ (Celt) ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่เรียกว่า Samhain ซึ่งเป็นชื่อของเทพเจ้าแห่งความตายทั้งนี้ ในวันที่ 31 ตุลาคม ชาวเซลท์ (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ ถือกันว่าเป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันต่อมา คือ วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นวันขึ้นปีใหม่นั่นเอง

เชื่อว่า Halloween เป็นวันที่มิติคนตายและคนเป็นจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ความเชื่อเรื่องผีก็เสื่อมถอยลง ฮาโลวีนจึงกลายเป็นเพียงพิธีการแต่งตัวเป็นผี แม่มด สัตว์ประหลาด ตามแต่จะสร้างสรรค์กันไป

credit: history.com

2. กิจกรรมในคืนฮัลโลวีนคือ เด็ก ๆ จะแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจพากันชักชวนเพื่อนฝูงออกไปงานฉลอง เรียกว่าการเล่น Trick or Treat (หลอกหรือเลี้ยง) คือการเดินเคาะประตูขอขนมตามบ้าน พร้อมกับถามว่า “Trick or Treat ?” เจ้าของบ้านมีสิทธิ์ที่จะตอบ Treat ด้วยการยอมแพ้ มอบขนมหวานให้ภูตผี (เด็ก) เหล่านั้น ราวกับว่า ช่างน่ากลัวเหลือเกิน หรือเลือกตอบ Trick เพื่อท้าทายให้ภูตผีเหล่านั้นอาละวาด ซึ่งก็อาจเป็นอะไรก็ได้ ตั้งแต่แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกหลอน ไปจนถึงขั้นทำลายข้าวของเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วอาจจบลงด้วยการ Treat เด็ก ๆ ด้วยขนมในที่สุด

3. การตกแต่งในเทศกาลฮาโลวีนเลย คือ การประดับประดาแสงไฟ และการแกะสลักฟักทองเป็นโคมไฟ เจาะทำตา จมูก และปากที่แสยะยิ้ม เรียกว่า แจ๊ก-โอ’-แลนเทิร์น (jack-o’-lantern) เป็นตำนานพื้นบ้านของชาวไอริช กล่าวถึงแจ๊กจอมตืด ซึ่งเป็นนักเล่นกลขี้เมา ซึ่งเขาหลอกล่อปีศาจขึ้นไปบนต้นไม้และเขียนกากบาทไม้กางเขนไว้ที่โคนต้นไม้ ทำให้ปีศาจลงมาไม่ได้ จากนั้นเขาได้ทำข้อตกลงกับปีศาจ “ห้ามนำสิ่งไม่ดีมาหลอกล่อเขาอีก” แล้วเขาจะปล่อยปีศาจลงจากต้นไม้ เมื่อแจ๊กตายลง เขาปฏิเสธที่จะขึ้นสวรรค์ เพราะเขามีความคิดไปในทางของความชั่วร้าย ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธที่จะลงนรก เพราะเขาได้ทำข้อตกลงกับปีศาจไว้ ปีศาจจึงให้ถ่านที่กำลังคุแก่เขา เพื่อให้เขาใช้นำทางไปในทางที่มืดมิด และหนาวเย็น และแจ๊กได้นำถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาดเทอร์นิพที่ถูกเจาะให้กลวง เพื่อให้ไฟลุกโชติช่วงได้นานขึ้น

ชาวไอริชจึงแกะสลักหัวผักกาดเทอร์นิพ และใส่ไฟในด้านใน อันเป็นอีกสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน เพื่อระลึกถึง “การหยุดยั้งความชั่ว” Trick or Treat เพื่อส่งผลบุญให้กับญาติผู้ล่วงลับ และพิธีทางศาสนาเพื่อทำบุญวันปีใหม่ แต่เมื่อมีการฉลองฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันพบว่าฟักทองหาง่ายกว่าหัวผักกาดมาก จึงเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทน

เรียบเรียงโดย jeedwonder
เครดิตภาพ : history.com

หอยแมลงภู่ชิลีอบไวน์ขาว

อาจเพราะเป็นเด็กภูเขา ไม่ค่อยจะได้เจอกับทะเลเท่าไหร่ การได้กินอาหารทะเล จึงเหมือนได้รับของขวัญ ก็เพราะ อาหารทะเลแถวบ้านเกิด จังหวัดเพชรบูรณ์ สมัยเมื่อ 20 – 30 ปีก่อน ใช่ว่าจะราคาถูกและหากินได้ง่าย พวกปูกุ้งนานๆจะได้กินที แต่กินทีไรก็ฟินเสมอ ของทะเลที่ได้กินบ่อยหน่อยก็น่าจะเป็นหอย (หอยแครง หอยแมลงภู่) ไม่ต้องทำอะไรมาก ขอแค่ลวกดีๆน้ำจิ้มถึงๆก็โอเคละ

จนพอโตขึ้นความกระแดะก็มากขึ้นตามวัย ได้ลองชิมเมนูหอยอื่นๆบ้าง แต่ที่ช๊อบชอบ จนต้องมาฝึกทำก็เมนูนี้นี่แหละ เพราะมันให้ความรู้สึกถึงทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน…(ขนาดนั้น) และมีความหรูหราของกลิ่นไวน์ขาวเข้ากันได้ดีกับกลิ่นหอยสดๆ ใบโหระพา และพริกหยวกหวาน แบบที่กินแล้วอยากกินอีกไม่อยากหยุดเลยทีเดียว

ขอแนะนำเมนูเด็ดของโปรดของเชฟแม่ธิชา
แห่งร้าน Tisha Spoon ที่เน้นหอยสดๆตัวไม่ใหญ่แต่หวานฉ่ำละมุน ที่เชื่อว่าใครได้ชิมต้องหลงรักแน่นอนค่ะ
…ลองไปทำดูกันนะคะ😊


วิธีทำ (สำหรับ 4 ที่)


วัตถุดิบ

  1. หอยแมลงภู่ชิลี ขนาด 60-70 ตัว 1 กิโลกรัม
  2. กระเทียมจีนสับ 3 กลีบ
  3. หอมใหญ่สับ 1-1/2 ผล
  4. พาสลีย์ 1/2 ช้อนชา
  5. ใบกระวาน 1-2 ใบ
  6. เลมอน 1/2 ผล
  7. เกลือเล็กน้อย
  8. พริกไทยดำบดหยาบตามชอบ
  9. พริกหยวกหวาน 1 ผล
  10. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  11. ไวน์ขาว 1/4 ถ้วย (หรือตามชอบ)
  12. ใบโหระพา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะก้นลึกให้ร้อน ใส่น้ำมันมะกอก ผัดหอมใหญ่ให้สุก ใส่กระเทียมพอได้กลิ่นหอม
  2. นำหอยแมลงภู่ที่ล้างสะอาดสะเด็ดน้ำแล้วใส่ลงในกระทะ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย
  3. ใส่พริกหยวกหวาน ใบกระวาน พาสลีย์ คนให้ทั่ว
  4. ใส่ไวน์ขาว ปิดฝา (นับ 1-10)
  5. เปิดฝา คนให้ทั่วแล้วปิดไฟ ใส่ใบโหระพา ใส่เลมอนสไลด์บาง หรือไม่ใส่ใช้บีบก่อนรับประทานได้ค่ะ

ภาพ/สุตร : เชฟแม่ธิชา (Jeedwonder)

#jeedwonderrecipe

ภัตตาคารสกาล่า : ลาเป็ดในตำนาน ภัตตาคารครึ่งศตวรรษ

หากโรงภาพยนตร์สกาล่าคือแลนด์มาร์คของสยาม ห้องอาหารสกาล่า ก็เป็นแลนด์มาร์คด้านอาหารของโรงภาพยนตร์แห่งนี้ ที่คงความดั้งเดิมทั้งบรรยากาศและการตกแต่ง และรสชาติอาหาร  การันตีความเก๋าโดยครอบครัวใหญ่ ที่ได้มาเยือนห้องอาหารแห่งนี้ตลอดช่วงเวลาห้าสิบปีที่ผ่านมา

ห้องอาหารสกาล่า เป็นภัตตาคารจีน ที่อยู่ชั้นล่างใต้โรงหนัง ด้วยการตกแต่งที่ให้บรรยากาศตะวันตก ทั้งผนังภาพนูนต่ำ เสาดอริก และรูปปั้นหญิงสาวยุคโบราณ มีห้องอาหารกลาง และห้องที่แยกต่างหากอยู่ด้านใน มีเวทีภายในร้านซึ่งนั่นหมายความว่าในบางโอกาสอาจมีดนตรีสดมาบรรเลงเพลงในความทรงจำให้บรรยากาศวันวานกลับมาอีกครั้ง

แม้ภาพที่เราเห็นจะให้ความรู้สึกคลาสสิคแบบตะวันตก แต่ด้านรสชาตินั้นมาจากฝั่งตะวันออก เมื่อทั้งสองส่วนผสมผสานกันทำให้ภัตตาคารแห่งนี้ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

เมนูเด็ดที่ติดตราตรึงใจวัยรุ่นเมื่อ 50 ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือเป็ดปักกิ่งที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่จำความกรอบของเป็ดปักกิ่งได้ ซึ่งภัตตาคารเค้ามั่นใจ จนกล้าการันตีว่าอร่อยกว่าเป็ดที่ปักกิ่งซะอีก เพราะความพิเศษอยู่ที่ความรวดเร็วในการแล่หนังให้ได้หนังกรอบๆ ไม่ติดเนื้อ โดยพนักงานที่ใช้มีดจนชำนาญมายืนแล่กันให้เห็นๆ ลงมีดแล้วรอบเดียวจบ ได้หนังเป็ดกรอบมันวาวพร้อมทานคู่กับเครื่องเคียง ส่วนเนื้อเป็ดนั้นร้านสามารถนำไปปรุงเป็นเมนูต่างๆ ได้อีก หลากหลายเมนูไม่ว่าจะเป็น เป็ดทอดกระเทียมพริกไท เนื้อเป็ดผัดคะน้า เนื้อเป็ดผัดถั่วงอก แกงจืดผักกาดขาวเนื้อเป็ด หรือเส้นใหญ่ราดหน้าเนื้อเป็ด

แต่ถ้าหากเป็นแฟนพันธุ์แท้ของที่นี่ จะรู้ว่านอกจากเมนูนี้แล้ว กุ้งกระจก เส้นเซี่ยงไฮ้ ขนมปังหน้ากุ้ง ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว และหมูกรอบ ก็เป็นเมนูยอดฮิตที่ลูกค้ามักจะสั่งมาทานคู่กัน

ตลอดเวลาที่ผ่านมากว่าครึ่งศตวรรษ ภัตตาคารแห่งนี้ก็ได้รับใช้ผู้คนมายาวนาน ทั้งในวันธรรมดา และวันพิเศษ แต่ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา ในวันที่ร่ำลาสกาล่าเราก็ต้องบอกลารสชาติในตำนานที่ปิดกิจการไปพร้อมกัน

เรียบเรียงโดยแอมป์แปล

ขอบคุณภาพจาก
เพจเที่ยวไปกินไป by Laser
OpenrRize.com
https://www.reviewnowz.com/scala-restaurant-peking-duck/

แจกสูตร “ขนมปังแม่หมี ลูกหมี” ขนมปังฮอกไกโด อุ่น-อบ กันสนุกทุกครอบครัว

“ขนมปังแม่หมีลูกหมี” เมนูขนมปังฮอกไกโดอีกหนึ่งขนมปังสุดฮิตแห่งยุค แม้จะมีขายทั่วไปแต่หลายคนก็ไม่มั่นใจความอร่อยและความสดใหม่ งั้นมาลงมือทำเองกันเลยค่ะ

เมนูขนมปังเนื้อนุ่มฟู อร่อยจนลืมไม่ลง

“แม่หมี ลูกหมี” สูตรขนมปังฮอกไกโด จากแม่จี๊ดวันเดอร์คนนี้เองค่า

ส่วนผสม
– แป้งขนมปัง 270 กรัม
– แป้งเค้ก 30 กรัม
– นมผง 15 กรัม
– เกลือ 4 กรัม
– patto-3 3 กรัม
– นมสด 125 กรัม
– ครีมสด 75 กรัม
– ไข่ไก่ 30 กรัม
– น้ำตาล 40 กรัม
– ยีส. 5 กรัม
– เนย 5 กรัม
– มอสซาเรลล่าชีส 1 ก้อน
– ช็อกโกแล็ต 1 ช้อนโต๊ะ

ร่อนแป้งขนมปัง
ร่อนแป้งเค้ก
ร่อนนมผง
ร่อนเกลือ
ร่อน patto-3

ผสมให้เข้ากัน

ผสมส่วนผสมที่เป็นของเหลว ได้แก่
นมสด และ ครีมสด

นำเข้าไมโครเวฟอุ่นเล็กน้อย

ใส่ไข่ไก่ ใส่น้ำตาล ผสมให้น้ำตาลไม่เกาะตัวกันเป็นเม็ด
ใส่ยีส ผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว

เกลี่ยส่วนผสมผงให้ตรงกลางเป็นรู เทส่วนผสมของเหลวลงไปตรงกลาง

คลุกเคล้าให้ผงแป้งกับของเหลวจับตัวเป็นเนื้อเดียวกัน

โรยแป้งนวล เพื่อช่วยในการนวดแป้งไม่ให้ติดกับโต๊ะ

นวดแป้งให้ได้ที่ นำไปใส่ในภาชนะแรปด้วยพลาสติกใสรอให้แป้งเซ็ตตัว 1 ชั่วโมงที่อุณหภูมิห้อง แป้งจะฟูขึ้นเท่าตัว

ใส่ถ้วยกระดาษในถาดหลุม เมื่อแป้งของเราโดนความร้อนจะพองฟูขนาดเท่ากับภาชนะ

นำแป้งที่ฟูขึ้นรูปเสร็จแล้ว มาตัดแบ่งเป็น 12 ชิ้น

นวดแป้งเข้าตรงกลางชิ้น ใส่มอสซาเรลล่าชีส

จับเนื้อแป้งปิดรูให้เรียบร้อย คลึงแป้งที่โต๊ะให้แป้งเนียนได้รูป

ใส่แป้งที่ปั้นเสร็จแล้วลงในถ้วยกระดาษ ปั้นแป้งเป็นหูติดที่หน้าแป้ง

แรปแป้งด้วยพลาสติกอีกครั้งรอจนแป้งฟูขึ้นเต็มแม่พิมพ์

ทาเนยเพื่อให้ความชุ่มช่ำเนื้อแป้งไม่แห้ง
ทาไข่ไก่เพื่อให้แป้งของเราสีเหลืองสวยงาม

นำเข้าเตาอบตั้งความร้อนที่ 175-180 องศาเซลเซียส
ใช้เวลา 20 นาที

ทาเนยอีกรอบ

ใช้ไม้เสียบลูกชิ้นวาดหน้าน้องหมีด้วยช็อกโกแล็ต

อบเสร็จแล้วค่ะ เนื้อนุ่มมาก แค่ฉีกกินตอนร้อนๆ ก็อร่อยแล้ว

หนังสือ my home ฉบับพิเศษ
สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ www.naiin.com และเพจ The book house โดยสำนักพิมพ์ หรือ ซื้อได้ที่ร้านขายหนังสือทั่วประเทศ

ขอบคุณนิตยสาร สำหรับภาพประกอบที่น่ารักอบอุ่นมากๆ ค่ะ

ทานมื้อค่ำในเรือนกระจกกันไหม?

เมื่อความพยายามในการรักษาระยะห่างเพราะโควิด-19 ทำให้ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงอัมสเตอดัม คิดไอเดียที่ทำให้มาตรการป้องกันกลายเป็นสถานที่สุดโรแมนติกไปได้

Mediamatic Amsterdam

Serres Séparées ห้องอาหารเรือนกระจกสำหรับ 2 ที่นั่ง ตั้งเรียงรายริมฝั่งแม่น้ำ Oosterdok ใจกลางกรุงอัมสเตอร์ดัม เป็นไอเดียการจัดร้านอาหารแบบใหม่ของMediamatic ที่จัดพื้นที่รับรองลูกค้าตามมาตรการรักษาระยะห่าง

Mediamatic Amsterdam

ทางร้านจึงได้นำแนวคิดการจัดห้องแยกเป็นส่วนตัว (Chambre Séparée) ของฝรั่งเศสมาปรับใช้ และผสมผสานให้เข้ากับคอนเซปต์ของร้าน คือใช้พืชและสมุนไพรเป็นวัตถุดิบหลักในการออกแบบอาหารแต่ละจาน โดยที่วัตถุดิบหลักเหล่านั้นส่งตรงมาจากฟาร์มอควาโพนิกส์ ที่ปลูกพืชด้วยระบบน้ำไหลในเรือนกระจกของร้านนั่นเอง

Mediamatic Amsterdam

ในโอกาสที่กลับมาเปิดร้านอีกครั้ง ร้านได้ออกแบบอาหารที่ใช้พืชเป็นหลัก 4 ชุด จัดวางบนแผ่นไม้ยาว 1.5 เมตร เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างเดินมาเสิร์ฟ เป็นการต้อนรับลูกค้าให้กลับมาสัมผัสบรรยากาศและเอกลักษณ์ของร้าน ที่อาจจะกลายเป็นนิวนอร์มอลที่โรแมนติกสุดๆ อีกที่นึงเลยทีเดียว

Mediamatic Amsterdam
Mediamatic Amsterdam
Mediamatic Amsterdam – มาตรการรักษาระยะห่าง

เปิดร้านหลังปลดล็อค รักษาระยะห่างได้แบบสวยๆ ด้วยไอเดียชิคๆ ของนักออกแบบตกแต่งชาวฝรั่งเศส

PLEX'EAT เปิดร้านหลังปลดล็อค รักษาระยะห่างได้แบบสวยๆ ด้วยไอเดียชิคๆ ของนักออกแบบตกแต่งชาวฝรั่งเศส

หลังจากประกาศคลายล็อคดาวน์ เจ้าของร้านอาหารน้อยใหญ่ต่างก็พอจะคลายกังวลลงได้บ้าง แต่ว่าการรับลูกค้าตามมาตรการ Social Distancing ก็เป็นโจทย์ใหม่มาให้ขบคิดกันอีกเรื่องแล้วว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าที่คิดถึงบรรยากาศ ได้เข้ามาทานอาหารในร้านได้อย่างสบายใจ และ ป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19 ไปพร้อมๆ กัน

นักออกแบบตกแต่งภายในชาวฝรั่งเศสคนนี้ Christophe Gernigon ได้เล่าว่า ตัวเขาเองก็กังวลในการออกไปทานอาหารที่ร้าน เขาจึงเกิดไอเดียปิ้งแว้บออกแบบอุปกรณ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อระหว่างการทานอาหาร แต่ยังคงความสวยงามกลมกลืนกับการตกแต่งร้าน แล้วยังตอบสนองกับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมได้

จึงกลายเป็นผลงานคอนเซปต์ล่าสุด ชื่อว่า “Plex’Eat” มีวัสดุทำด้วยกระจกใสทนความร้อนรูปทรงคล้ายระฆังห้อยลงมาจากเพดาน ในระดับพอดีกับโต๊ะอาหารชิ้นนี้ เว้าโค้งด้านหลังเปิดทางให้ลูกค้า เข้ามานั่งรับประทานอาหารได้เหมาะเจาะ

เวลานักออกแบบเจอปัญหา ก็จะมีทางออกที่สร้างสรรค์ มาให้ประหลาดใจ “Plex’Eat” ที่เรียบหรู ดูดีแบบนี้ หลายคนคงอยากรู้ว่าราคาสนนราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่กันนะ แต่ Christophe เองก็ยังบอกว่าเริ่มมีฝ่ายผลิตทะยอยติดต่อมาแต่ยังเร็วไปถ้าจะให้ประเมินราคาในตอนนี้ เอาเป็นว่าเราก็ได้แต่หวังว่าจะเริ่มผลิตและวางจำหน่ายได้เร็ววัน จะได้อิ่มอร่อยกันได้สบายใจ ทานข้าวด้วยกันให้หายคิดถึงเนอะ

เรียบเรียงโดย: แอมป์แปล
ที่มา:
https://www.christophegernigon.com/plex-eat

https://world-today-news.com/coronavirus-a-designer-has-found-the-solution-for-restaurants/

https://www.housebeautiful.com/design-inspiration/a32493222/christophe-gernigon-plastic-shields-restaurants-coronavirus/

Greenies & Co. Chiang Mai Thailand

ร้านใหม่แถวกลางเมืองเชียงใหม่ ถนนราชภาคินัย ย่านถนนคนเดินใกล้แยกสามกษัตริย์ เป็นตึกสามชั้น ซึ่งชั้นแรกเป็นร้านขายเครื่องหนังเท่ๆที่เปลี่ยนภาพจากอาคารพานิชย์เก่าอายุกว่า 30 ปีให้กลายเป็นอาคารเก๋ๆ เรามาทำความรู้จักแบรนด์นี้กันเถอะค่ะ

“กรีนนีส์ แอนด์ โค” เป็นแบรนด์แรกที่เกิดภายใต้ บริษัท อาร์ส ดี-ไซน์ จำกัด ด้วยประสบการณ์ ในการออกแบบ และผลิตสินค้าส่งออก ไปหลายประเทศ เป็นเวลานานเกือบ 20 ปี และในปี พศ.2557 เราได้เริ่มต้นเล็กๆในการทำสินค้าขายในประเทศในชื่อ แบรนด์ “กรีนนีส์ แอนด์ โค” โดยสินค้าหลักคือกระเป๋า รองเท้าและของใช้กระจุกกระจิก ที่ทำจากผ้าและหนัง

เจ้าของแบรนด์มีความตั้งใจทำแบรนด์ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ในรูปแบบที่เรียบง่าย ร่วมสมัย สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้หลายโอกาส ด้วยการเน้นเทคนิคตัดเย็บให้รายละเอียดที่พิถีพิถันทำให้ผลงานดูโดดเด่นสร้างสรรค์ไปพร้อมกับการผสมผสานเข้ากับวัสดุคัดสรรหลากหลายที่หาได้ในท้องถิ่นเป็นหลัก เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของเราเป็นมิตรทั้งราคาและคุณภาพ

มากกว่านั้น เรามุ่งหวังให้ “กรีนนีส์ แอนด์ โค” เป็นที่รู้จักและยอมรับไปทั่วโลกในฐานะแบรนด์ดีไซน์ ของคนไทยที่ผลิตในเชียงใหม่ด้วย

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องไม่ยาก เพราะจากที่เห็นความตั้งใจที่ผ่านออกมาในชิ้นงานแต่ละชิ้นแล้ว ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่จี๊ดวันเดอร์ภูมิใจนำเสนอจริงๆค่ะ

เปิดทุกวัน

เวลา  10:00 – 19:00 น.

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  www.greeniesandco.com

 

DSC09137_resize DSC09136_resize DSC09115_resize DSC09117_resize DSC09120_resize DSC09122_resize DSC09124_resize DSC09083_resize DSC09091_resize DSC09094_resize

Secret garden, Secret memories

96C80BD0-28E1-48FE-AD8E-208F452EE5CE

Secret garden by JWD เกิดจากความรักของคนสองคน คุณโอ๋ ศรายุทธ ศรีทิพย์อาสน์ กับ คุณจี๊ด ธัญญานันท์ ศรีชัยวรรณ คนหนึ่งเป็นสถาปนิกบรรณาธิการแผนกสถาปัตย์ นิตยสารบ้านและสวน และอีกคนเป็นสาวติ๊ส จบศิลปะ อดีตกองบรรณาธิการฝ่ายข่าวและศิลปวัฒนธรรมนิตยสารบ้านและสวน ซึ่งพบรักกันระหว่างร่วมงานกันที่นิตยสาร room ก่อนจะย้ายมาทำที่บ้านและสวน

gardenhome-02-03

 

 

“แต่ก่อนบ้านนี้เป็นบ้านเก่า ซึ่งเป็นสวนสนามหญ้าปกติ เริ่มมาทำสวนจริงจังตอนที่จี๊ดตั้งครรภ์ คุณสามีออกแบบและลงมือทำให้ด้วยตัวเองเป็นสวนสไตล์ผสมๆแบบไม้กระถางให้ดูแลง่าย หลักๆจะเน้นไปที่ต้นไม้ประเภทอยู่ในที่ร่มรำไร เช่น บีโกเนีย ปริกน้ำค้าง สับปะรดสี เพราะมีต้นไม้ใหญ่ที่อยู่มาก่อนอย่างมะม่วงและลั่นทม เสริมด้วยพวกเฟิร์นต่างๆเช่น เฟิร์นสไบนางห้อยเป็นแชนเดอเลียร์ตามจุดต่างๆของสวน รอบน้ำพุเป็นไอริสน้ำ มีโรงเรือนไม้หลังแรกไว้เก็บอุปกรณ์สำหรับจัดเวิร์คช็อป โรงเรือนอีกหลังไว้เก็บต้นไม้ตระกูลพืชอวบน้ำและแคคตัสเพราะมีแสงแดดส่องสม่ำเสมอ ส่วนการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ก่อนแล้วค่อยๆเพิ่มน้ำพุแบบสวนอังกฤษและอื่นๆทยอยเข้ามาตามงบประมาณ ตั้งใจให้ใช้พักผ่อนและออกกำลังกาย พอคลอดลูกสาว “น้องธิชา” ก็ค่อยๆปรับเปลี่ยนให้เป็นร้านอาหาร ก็เริ่มปลูกดอกไม้ที่กินได้อย่าง พวงชมพู ดอกอัญ และพืชผักสมุนไพรที่ใช้ประจำอย่าง กระเพรา โหระพา พริก โรสแมรี่ ไทม์ และดิลเป็นต้น สามีตั้งชื่อให้ว่า “Secret garden” เพราะเมื่อมองจากข้างนอกจะดูไม่ออกเลยว่าจะมีสวนซ่อนอยู่ แต่เราขอเพิ่มคำว่า “by JWD” เข้าไป เพราะจะได้บอกว่าเป็นของเรา เป็นของ jeedwonder”

ThaiPBS_wanmai
“ชื่อ jeedwonder เป็นนามปากกาที่ใช้สมัยเป็นกองบรรณาธิการ เป็นการประชดตัวเองหน่อยๆที่ทำอะไรเยอะแยะไปหมด ด้วยความที่จบศิลปะ ชอบประดิดประดอย ระหว่างทำงานประจำก็จะใช้เวลาเสาร์-อาทิตย์ เปิดสอนเวิร์คช็อปงานศิลปะไปด้วย พอออกมาเปิดบริษัทของตัวเองก็เลยยังใช้ชื่อนี้เพราะคิดว่ามีฐานลูกค้าอยู่แล้วและรู้สึกติดหูดี ไม่มีคนกล้าใช้ชื่อนี้แน่นอน…ฮา”

คอร์สสอนจัดดอกไม้

“บริษัทจี๊ดวันเดอร์จำกัด จึงมีธุรกิจรับจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาดเป็นหลักชื่อว่า JWD workshop,มีรับออกแบบตกแต่งภายใน ออกแบบสวน ออกแบบงานอีเวนต์ใช้ชื่อว่า JWD interior & design, มีสินค้าตกแต่งบ้าน เครื่องหนังกับเสื้อผ้าเด็กใช้ชื่อแบรนด์ว่า Tisha by JWD และมีร้านอาหารชื่อ Secret garden by JWD นี่แหละค่ะ”

เวิร์คช็อปทำแม่พิมพ์ไม้อย่างง่าย ที่ลูกค้าสามารถเลือกวันและเวลามาเรียนได้พร้อมรับประทานอหารที่ร้าน

เวิร์คช็อปทำแม่พิมพ์ไม้อย่างง่าย ที่ลูกค้าสามารถเลือกวันและเวลามาเรียนได้พร้อมรับประทานอหารที่ร้าน

“จุดเริ่มต้นของ Secret garden by JWD ส่วนตัวชอบทำอาหาร อาจจะสั่งสมมาตั้งแต่เด็กๆเพราะคุณยาย คุณแม่ และคุณพ่อเป็นคนทำอาหาร คือทำอาหารอร่อยกันคนละอย่าง คุณยายจะแนวอาหารโบราณโตมากับคุณยายขลุกอยู่กับคุณยายมาแต่เล็กๆที่บ้านจะทำห่อหมกขาย คั้นกะทิ โม่แป้งเองทุกอย่างจะมาจากธรรมชาติและถึงเครื่องมากๆ คุณแม่จบคหกรรมก็จะเป็นอาหารประเภทประดิดประดอยสวยงาม ส่วนคุณพ่อจะมาแนวนักดื่มจึงมีฝีมือเรื่องกับแกล้มอาหารป่าคุณพ่อจะศิลปินมากทำอาหารแบบใช้จิตวิญญาณไม่มีพิธีรีตองอะไรแต่อร่อยสุดใจ เราก็ประเภทชอบกิน ชอบลองอาหารสวยๆอร่อยๆ แล้วด้วยมาทำงานนิตยสารต้องไปชิมไปชมร้านอาหารดีๆเก๋ๆมาเยอะ ทำให้มีประสบการณ์ด้านนี้มาสมควร

19367497_1366230350159779_2939458712391122944_n
ประกอบกับเมื่อแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่ที่นครปฐม ไม่รู้จักร้านอาหารอร่อยๆเท่าไหร่ เพราะทางบ้านสามีเองก็เน้นทำกินเองในบ้าน ไอ้ความอยากกินของตัวเองก็ค่อยๆก่อตัวใหญ่ขึ้นจนลงมือทำอาหารกินเองดูสตรตามหนังสือบ้าง ตาม Youtupe บ้าง จำพ่อจำแม่จำยายมาบ้าง แรกๆก็มีเพื่อนๆกับลูกค้าที่แวะเวียนมาที่บ้านก็ทำเลี้ยง ทำบ่อยขึ้นจนโดนยุว่าควรจะคิดค่าอาหารนะ เพราะโดนขู่ว่าไม่อย่างนั้นจะไม่กลับมาทานอีก…ก็เลยลองทำดู”

Screen Shot 2558-08-16 at 10.43.39 AM

“ลักษณะของร้าน เป็นสไตล์ Homemade restaurantที่เปิดบ้านรับแขกแบบส่วนตัว คือ รับจองสำรองโต๊ะล่วงหน้าเท่านั้น เน้นคอนเซ็ปท์ “Private party space” เสริฟอาหารไทย – อิตาเลี่ยนสไตล์โฮมเมดที่ทำเองทั้งหมด ตั้งแต่เลือกวัตถุดิบคุณภาพดีปลอดผงชูรสเมนูในร้านเป็นเมนูที่คนทำชอบกินทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นขนมจีนซาวน้ำสูตรคุณยาย ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ สปาเก็ตตี้ต่างๆ เมนูขายดีก็จะเป็น Secret black peal คือ สปาเก็ตตี้เส้นดำผัดพริกกุ้งรสจัดจ้าน ที่ใช้กุ้งสดๆตัวใหญ่ผัดกับน้ำมันเบคอนหอมพร้อมกระเทียมสดพริกแห้งและใบโหระพา เส้นสปาเก็ตตี้ของเราจะมีความหนึบหนับไม่นิ่ม สไตล์อิตาเลียน หรือที่เรียกว่า “Al Dente หรือ อัล ดังเต้”, สเต็กเนื้อต่างๆอาทิ สเต็กหมู สเต็กเนื้อ สเต็กปลาแซลม่อน สเต็กซี่โครงแกะที่เน้นเนื้อคุณภาพดี หมักสมุนไพรแท้จากฝรั่งเศสซึ่งเพื่อนที่น่ารักส่งมาให้ นำเสนอสเต็กแกะหมักไวน์แดง หรือ lamb chop red wine steakซึ่งเป็นสูตรพิเศษของทางร้าน เนื้อแกะนุ่มๆชุ่มไวน์ย่างสุกกำลังดีกับเครื่องเคียงซึ่งเป็นผักย่างแบบจุใจราดซอสสูตรลับซึ่งเป็นเมนูโปรดของตัวเองด้วย,กุ้งทอดซอสมะขาม ซึ่งใช้กุ้งตัวใหญ่สดๆทอดกรอบคลุกซอสมะขามสามรสเคียงด้วยกระเทียมเจียวกรอบและพริกทอดหอมๆ, หอยแมลงภู่ชิลีอบไวน์ อบอวลไปด้วยกลิ่นไวน์ขาวสมุนไพรสดที่ปลูกเองในบ้านอย่างใบไทม์ พาสลีย์ โหระพาและกระเทียมเน้นๆ, Secret Saladสลัดผักซีเคร็ต ซึ่งเน้นผักสดใหม่ๆกับผลไม้อย่างส้มบ้าง สตรอเบอร์รี่บ้าง มัลเบอร์รี่บ้าง (แล้วแต่จะเจอ) กับอัลมอนน้ำสลัดสูตรเข้มข้นรสชาติคล้ายๆยำเพราะมีทั้งพริกกับกระเทียม น้ำส้มบัลซามิกส์มะนาวน้ำผึ้งเกลือพริกไทย และ Secret Sea food mix cheeseพิซซ่าซีฟู๊ดมิ๊กซ์ชีสแป้งบางกรอบที่เน้นใช้ชีสคุณภาพดีแบบเน้นๆวางท็อปบนแป้งบางกรอบหอมกรุบๆ นอกจากนั้นยังจะมีเมนูแล้วแต่ฉัน ที่ลูกค้าจะถามขอให้ทำเราก็ยินดีจะทำให้ซึ่งก็จะคิดราคาเป็นจานๆไปค่ะ”

16790224_585648468306273_178713361553293312_n

ขนมจีนซาวน้ำสูตรคุณยาย

17934456_1822001868121527_7844949124116905984_n

กุ้งทอดซอสมะขาม ซึ่งใช้กุ้งตัวใหญ่สดๆทอดกรอบคลุกซอสมะขามสามรสเคียงด้วยกระเทียมเจียวกรอบและพริกทอดหอมๆ

17439410_182571442250795_3134264646387630080_n

Secret black peal คือ สปาเก็ตตี้เส้นดำผัดพริกกุ้งรสจัดจ้าน ที่ใช้กุ้งสดๆตัวใหญ่ผัดกับน้ำมันเบคอนหอมพร้อมกระเทียมสดพริกแห้งและใบโหระพา

17127008_1868272983455708_4203291901966680064_n

สปาเก็ตตี้ซีฟู้ดอบไวน์ขาว

16907051_1906318502939323_7148507150434697216_n

สเต็กเนื้อรสเด็ด

 

พิซซ่าซีฟู้ดโฟว์ชีส แป้งบางกรอบท็อปด้วยชีสคุณภาพดีแบบจัดเต็ม

พิซซ่าซีฟู้ดโฟว์ชีส แป้งบางกรอบท็อปด้วยชีสคุณภาพดีแบบจัดเต็ม

26865084_2049274818652368_507026120562966528_n

“จริงๆแล้วเป็นคนมีโลกส่วนตัวเยอะมาก ไม่ชอบการเซอร์ไพรส์เพราะกลัวความไม่พร้อม ไม่เรียบร้อย เพื่อนๆจะรู้ว่าจะนัดเจอจี๊ดต้องเวลาสถานที่เป๊ะ และไม่ค่อยให้ใครเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวถ้าไม่ได้รับอนุญาติ…(ดูโหดไปไหม…แต่ยอมรับว่าาเป็นอย่างนั้นจริงๆ) การเปิดบ้านเป็นร้านอาหารจึงขอให้เป็นแบบจองสำรองโต๊ะเท่านั้น อย่างน้อยก็จะได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวได้ ไม่ต้องสต๊อกวัตถุดิบทำให้ลูกค้าได้ทานของสดใหม่ ปลอดภัยไม่มีผงชูรสเพราะเราคิดว่าลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารที่ร้านเปรียบเสมือนเพื่อนเหมือนญาติสนิทที่เราต้องใส่ใจถึงสุขภาพเขาเหมือนครอบครัวเราเอง อยากให้เขามีความสุขเหมือนมาทานอาหารบ้านเพื่อน อบอุ่นเป็นกันเอง และเป็นส่วนตัว ที่สำคัญกล้าเปิดเป็นร้านอาหารได้ต้องมั่นใจว่าอร่อย”

35102410_1574711609323796_2433317067328323584_n

31065277_118024209063488_4375815464027160576_n35102488_1574711665990457_9071561147852783616_n35955129_1592308794230744_5647574307077881856_n
“นอกจากเป็นร้านอาหารแบบลับๆ ให้จองสำรองที่นั่งเท่านั้นแล้ว เรายังเปิดสอนเวิร์คช็อปด้วย ซึ่งก็คือเวิร์คช็อปเกี่ยวกับศิลปะต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น จัดสวนในขวด จัดดอกไม้ วาดภาพสีน้ำ แกะบล็อกภาพพิมพ์ไม้ และอื่นๆตามแต่วาระและโอกาส เพื่อตอกย้ำความเป็นนักจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปของตัวเอง ลูกค้าที่มาเรียนก็จะตามมาจากรายการทีวีที่เราเคยออกมาบ้าง ที่เคยออกเป็นประจำก็คือช่วงคนสวนชวนทำ รายการ The gardener ช่องอมรินทร์ 34HD และรายการอื่นๆอีกหลายรายการ ลูกค้าที่มาเรียนเวิร์คช็อปที่นี่ก็สามารถเลือกเรียนทั้งส่วนตัวหรือเป็นกลุ่มได้ ราคาก็จะรวมของว่างและเครื่องดื่มไว้แล้ว เริ่มต้นที่ 1 คนที่ 3000 บาท และลดหลั่นลงไปเรื่อยๆตามแต่ว่าจะเลือกเรียนเวิร์คช็อปอะไร”

Screen Shot 2016-10-02 at 11.55.26 PM

“เอาจริงๆคือ อยากทำงานอะไรที่บ้านก็ได้เพื่อให้ได้มีเวลาได้อยู่กับลูกมากที่สุด เราจึงออกแบบงานของตัวเองให้อยู่ที่บ้าน จัดการเวลาได้ แต่ด้วยความที่ทำหลายอย่างก็จะมีบ้างที่ต้องไปทำงานข้างนอกบ้าน จึงไม่สะดวกที่จะเปิดแบบเต็มเวลา แถมพนักงานที่ร้านก็มีแค่สองคนคือตัวเองและสามี ที่จะวางมือจากงานออกแบบมาช่วยเสิร์ฟและช่วยเก็บล้าง”

14099537_1755876261318484_1309179127_n

“หากท่านใดคิดว่าร้าน Secret garden by JWD ถูกจริตตัวเอง แบบว่าอยากมากินข้าวบ้านเพื่อนแบบชิลๆก็สามารถเข้าไปขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.jeedwonder.com/secret-garden-by-jwd/ หรือwww.facebook.com/SecretGardenByJWD/ โทร.08.1776.2052 และ ID LINE : jeedwonder ที่จะสร้างอีกหนึ่งประสบการณ์ในการ “กินดี เสพสไตล์ ทำสนุก”
รับรอบละ 1 โต๊ะ (2-12คน) วันละ 2 รอบ 11.00- 15.00 น. และ 17.00-21.00 น.

***เริ่มต้นค่าเปิดเตา (ร้านเป็นแบบจองเท่านั้นไม่รับลูกค้า Walk in จึงคิดค่าเริ่มต้นในการเปิดเตาหรือเปิดร้านค่ะ)
ท่านละ 300 บาท
และสามารถเลือกอาหาร เครื่องดื่ม และ ขนม ในราคาที่แจ้งไว้ได้ค่ะ

หรือจะเลือกจ่ายเป็นเซ็ต ราคาเซ็ตละ 450 บาท
***ในเซ็ตเริ่มต้นที่ 2-6 ท่าน คิดราคาท่านละ 500 บาท 7 ท่านขึ้นไปคิดท่านละ 450 บาท
สั่งอาหารได้ 1 จาน + ขนมประจำวัน หรือ ไอศครีม 1 ถ้วย (กะทิลาเวนเดอร์,อัญชัญนำ้ผึ้งมะนาว,ชาเขียวมะลิ,ลิ้นจี่ชากุหลาบหรือขนมที่ทำในวันนั้นๆ) + เครื่องดื่ม 1 แก้วค่ะ
ในกรณีเลือกเป็นชา 1 กา เพิ่ม 100 บาท

เงื่อนไขการจองคือ
– รบกวนเลือกวัน เวลา
– ระบุเมนูอาหาร
– และโอนจ่าย 100%
เพื่อเป็นการจองคอนเฟิร์มค่ะ

รบกวนโอนมาที่
ธนาคารกสิกรไทย
เลขที่ 779 201 097 5
ชื่อบัญชี ธัญญานันท์ ศรีชัยวรรณ

แล้วส่งหลักฐานการโอนมาที่
Line : jeedwonder ค่ะ

เมนูประจำร้าน (***สำหรับเมนูหลักในเซ็ตมีเครื่องหมาย*บางรายการจะมีส่วนต่างจะระบุไว้ในวงเล็บ)
1. *ขนมจีนซาวน้ำ ราคา 140 บาท
2.*สปาเก็ตตี้เส้นดำปัดพริกกุ้งกระเทียม ราคา 160 บาท
3.*พาสต้าหมูสับ(สูตรเฉพาะทางร้าน) ราคา 150 บาท
4.*สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าไข่เบเนดิก ราคา 160 บาท
5. *พิซซ่าซีฟู้ด4ชีส 1 ถาด = สองท่าน (ในเซ็ต) นะคะ สั่งเพิ่มราคาถาดละ 250 บาทค่ะ
6. *ไก่อบน้ำผึ้ง ราคา 160 บาท
7. *สเต๊กเนื้อโคขุน(ไทย) จานละ 260 บาท (สั่งในเซ็ตได้ เพิ่มอีก 100 บาท),*สเต็กเนื้อแองกัส (นำเข้า) จานละ 480 บาท (สั่งในเซ็ตได้ เพิ่มอีก 300 บาท
8. Secret Mix Salad 240 บาท
9. ม้าฮ่อสตรอเบอรี่ จานละ 60 บาท
10. หอยแมลงภู่ชิลีอบไวน์ จานละ 480 บาท มี 12 ตัว
11. หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส มี 6 ตัว จานละ 360 บาท
12. เครื่องดื่มเริ่มต้นแก้วละ 45-65 บาท (ในเซ็ตเลือกได้ท่านละ 1 แก้ว สำหรับชาร้อน 1 กา เพิ่ม 100 บาท)
13. *Lambs shop แกะอบไวน์แดง 4 ชิ้น 420 บาท (ในเซ็ต คิดราคาเพิ่ม 300 บาท ), 2 ชิ้น 260 บาท (ในเซ็ต คิดราคาเพิ่ม 150 บาท )

14. *สเต๊กปลาแซลม่อน จานละ 240 บาท (เพิ่มจากเซ็ต คิด 100 บาท)
15. กุ้งทอดซอสมะขาม 340 บาท (กุ้ง 6 ตัว ทอดกรอบราดซอสมะขาม กระเทียมเจียว หอมเจียว พริกแห้งเจียว)

**สั่งอาหารเพิ่มเติม คิดตามราคาจริงค่ะ
ร้านเป็นแบบจองสำรองโต๊ะ
ไม่รับ walk in ค่ะ

เพราะเราเน้นอาหารทำสดใหม่ ไม่สต๊อกของ และไม่มีผงชูรสนะคะ^^

 

 

15802475_200391900364862_882439144502984704_n

 

31150110_197184144404568_8577716638403526656_n

30602258_1815291708514633_8283939402183344128_n

31176367_377084276110656_2291317666041823232_n(1)

31185173_2050090581924803_7707725614794407936_n

 

17587192_1434895396584796_968045827056467968_n

 

17075913_1284644741602104_1037203055449210880_n

IMG_4873

เรื่องของอาหารในวันแห่งความรัก

27972408_1595738953849763_3265944118104617923_n

ไม่ว่าวันไหนๆ เราก็ต้องกิน

แต่กินยังไงให้พิเศษกว่าทุกๆวันล่ะ

ศิลปะของการกิน มีอยู่หลักๆไม่กี่ข้อ
1. รูปสวย คือ หน้าตาอาหารที่ดูดี การจัดจาน การประดับประดา
2. กลิ่นหอม คือ กลิ่นของอาหารที่หอมหวลชวนกิน
3. รสชาติดี อันนี้คือปัจจัยหลักเลยของการกินเลยค่ะ
เพราะถ้ารูปสวย กลิ่นหอม แต่รสชาติห่วย สองข้อแรกก็เปล่าประโยชน์ทันที

สำหรับวันนี้ ซึ่งเป็นวันพิเศษ หรือ ไม่พิเศษสำหรับบางคน
วาเลนไทน์ หรือ วันแห่งความรัก
สัญลักษณ์สากลที่ทุกคนทั่วโลกนึกถึง ก็ไม่พ้น “รูปหัวใจ”

ลองทำอาหารเมนูธรรมดา
แต่ตัดส่วนประกอบให้เป็นรูปหัวใจ ให้ได้ฟินกันไป…

อาหารธรรมดาก็จะดูพิเศษขึ้นมาแล้วละค่ะ

ไม่เชื่อ…ก็ลองดูสิ

เรื่อง : เชฟแม่ธิชา
ภาพ : Pinterest
www.jeedwonder.com
www.facebook.com/SecretGardenByJWD

Valentine dinner table idea

28056341_1592467997475524_8038363306853235969_n

 

วันสำคัญแบบนี้
มาลองจัดโต๊ะเก๋ๆไว้ดินเนอร์กับคนพิเศษกันดีกว่า

อุปกรณ์
1. ผ้าปูโต๊ะสีพื้น ขาว กับ ดำ หรือ สีเข้มกับสีอ่อน ก็ได้
2. ปากกาเขียนผ้า หรือ ปากกาเมจิ
3. เทียนไขประดับตกแต่ง
4. จาน ช้อนส้อม แก้วน้ำ
5. ดอกกุหลาบสีที่ชอบ

วิธีจัด
– โต๊ะเก่าที่มีในบ้าน หาผ้าคลุมสีพื้นๆ จะขาว จะดำ หรือ สีอะไรที่ชอบ ขออย่าลาย

– ใช้ปากกาเขียนข้อความน่ารักๆบนผ้า ผ้าสีเข้มใช้ปากกาสีอ่อน
ผ้าสีอ่อนใช้ปากกาสีเข้ม

– จากนั้นวางจานสีขาว ช้อนส้อม แก้วน้ำ จัดให้สวยงาม

– ตกแต่งด้วยเทียนหอมหลากขนาด

– นำกุหลาบที่ล้างสะอาดแล้วจัดวางไว้บนจาน และนำกลีบมาโรยตกแต่งบนโต๊ะตามชอบ

เพียงแค่นี้ คุณก็จะมีมุมดินเนอร์หวานๆกับหวานใจได้แบบไม่ซ้ำใครแล้วล่ะค่ะ

Happy Valentine’s day

เรื่อง : jeedwonder
ภาพ : Pinterest
www.jeedwonder.com
https://www.facebook.com/JWDdesign/