“บ้านและสวน” บทสัมภาษณ์ที่อบอุ่น จากบ้านสู่บ้าน

เมื่อไม่นานมานี้ ทีมงานบ้านและสวนเข้ามาสัมภาษณ์ครอบครัว เลยได้รู้ความเป็นมาของสวนที่เป็นหลักฐานชิ้นใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงความรัก และความสุขที่เราสัมผัสได้ในทุกๆ ครั้งที่เราลืมตามอง อ่านบทความเต็มที่นี่

 

Screen Shot 2015-11-11 at 9.07.50 AM

Screen Shot 2015-11-11 at 9.09.03 AM

               “ผมอยู่บ้านหลังนี้มานานกว่ายี่สิบปีแล้ว เดิมพื้นที่บริเวณหน้าบ้านเป็นสนามหญ้า แต่ไม่ค่อยมีเวลาว่างมาดูแลตัดหญ้าบ่อยๆ จึงรื้อสนามหญ้าออกแล้วปูพื้นอิฐแทน ตอนนั้นช่วยกันทำสองคนกับพี่ชาย ค่อยๆทำมาเรื่อยๆ สวนเริ่มออกมาเป็นรูปเป็นร่างจริงๆก็เมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นได้ทราบข่าวดีว่าจี๊ดกำลังตั้งครรภ์ เป็นลูกสาวคนแรกของครอบครัวเราด้วย เลยตั้งใจจะทำสวนนี้เพื่อให้จี๊ดได้มีพื้นที่สำหรับเดินเล่นออกกำลังกาย และได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องจะได้ออกมามีสุขภาพดีและแข็งแรงด้วยกันทั้งคู่ จนตอนนี้น้องธิชาออกมาเป็นขวัญใจของครอบครัวเราได้แปดเดือนแล้ว เขาน่ารักมาก เป็นเด็กเลี้ยงง่าย ยิ้มเก่ง และมีสุขภาพดีตามที่ผมหวังไว้จริงๆครับ” นี่คือมุมน่ารักๆของคุณพ่อที่เล่าถึงลูกสาวและภรรยาให้เราได้ยิ้มตามไปด้วย
              คุณโอ๋เป็นทั้งสถาปนิกและบรรณาธิการหนังสือเล่ม แผนกสถาปัตยกรรม ของสำนักพิมพ์บ้านและสวนอยู่แล้ว เรื่องการออกแบบจึงไม่เป็นปัญหา มีการวางแปลนสวนนี้ไว้อย่างคร่าวๆในขนาดพื้นที่ประมาณ 50 ตารางเมตร โดยคำนึงถึงการใช้งานของคนในบ้านเป็นหลัก รูปแบบเป็นสวนกระบะและสวนกระถาง เพื่อการดูแลได้ง่าย กระถางในสวนส่วนใหญ่ก็ทำจากวัสดุปูนปั้น มีรูปทรงต่างกันออกไป แต่เข้ากับสไตล์ของสวนนี้ได้ดี ส่วนกระบะปลูกต้นไม้สร้างจากบล็อกประสานที่นำมาเรียงต่อกัน โดยตั้งใจออกแบบให้มีความสูงเหมาะกับการนั่งเก้าอี้แล้วสามารถทำสวน ตัดแต่งกิ่งไม้ได้สะดวก เพราะคุณแม่ของคุณโอ๋เองก็ชอบทำสวน แต่ด้วยอายุที่มาก จะยืนนานๆก็ไม่ไหว หากก้มมากๆก็ไม่ถนัด นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งให้สวนนี้มีรูปแบบอย่างที่เห็น เป็นการออกแบบที่ตั้งใจทำขึ้นเพื่อคุณแม่ของคุณโอ๋นั่นเอง
               บริเวณที่อยู่ด้านในของสวน คุณโอ๋ทำเป็นซุ้มศาลาเพื่อให้ภรรยาได้ใช้มุมนี้ทำงานด้านเวิร์คชอปของบริษัท jeedwonder จำกัด ซึ่งคุณจี๊ดเรียนจบมาทางด้านศิลปะ แถมยังถนัดเรื่องการทำอาหาร ด้วยใจรักจึงได้เปิดสอนทำกิจกรรมเวิร์คชอปต่างๆ เช่น สอนจัดดอกไม้ ทำขนม จัดสวนเทอร์ราเรียม วาดภาพสีน้ำ ฯลฯ ดูเป็นโฮมออฟฟิศที่มีบรรยากาศน่ารักไม่น้อยเลยทีเดียว
               แหล่งต้นไม้ประจำที่คุณโอ๋และคุณจี๊ดชอบไปเดินเลือกซื้ออยู่แถวบางใหญ่ เพราะมีบ้านอยู่ในจังหวัดนครปฐม จึงเดินทางไปซื้อต้นไม้ที่นั่นได้สะดวก หาที่จอดรถง่าย และยังเปิดขายทุกวัน ส่วนการเลือกชนิดพรรณไม้มาปลูกในสวน คุณโอ๋เล่าว่า
              “ตัวผมเองไม่ค่อยรู้เรื่องต้นไม้มากนัก ก็จะเลือกต้นที่ผมและจี๊ดชอบ แล้วหาอ่านจากหนังสือหรือถามวิธีการปลูกจากคนขายว่าต้นนี้ปลูกอย่างไร ต้องดูแลแบบไหน ค่อยๆเรียนรู้กันไป อย่างโซนด้านหน้าของสวนมีแสงแดดส่องเยอะหน่อยก็เลือกปลูกพวกไม้ดอก เช่น กุหลาบ บัวดิน ยี่โถ เพราะเขาชอบแสงแดดจัด ส่วนโซนด้านในไม่ค่อยโดนแดด ก็เลยเลือกปลูกไม้ใบแทน แต่ไม้ดอกอย่างไฮเดรนเยียก็สามารถปลูกได้ เพราะเป็นพรรณไม้ที่ชอบแสงแดดรำไร ส่วนต้นไม้ใหญ่ในสวนอย่างลั่นทมและมะม่วงก็ซื้อมาปลูกไว้ตั้งแต่ต้นเล็กๆ จนตอนนี้มีขนาดใหญ่ให้ร่มเงาได้ดี”
               คุณจี๊ดกล่าวเสริมทิ้งท้ายกับเราไว้ว่า “เราทั้งคู่ช่วยกันเลือกของที่ใช้แต่งสวน บางชิ้นก็เป็นของสะสม เก่าบ้างใหม่บ้าง แต่ล้วนมีเรื่องราวความทรงจำดีๆซ่อนอยู่ในนั้น เมื่อมองเห็นทีไรก็จะรู้สึกมีความสุขได้เสมอ อย่างชั้นเค้กที่อยู่ในสวนก็มาจากงานแต่งงาน ตอนนั้นจี๊ดไม่ได้ตัดเค้ก เปลี่ยนเป็นวางต้นไม้ไว้แทน แล้วจับมือกันกับพี่โอ๋ช่วยกันรดน้ำ เหมือนเป็นคำสัญญาว่าเราจะคอยดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ให้ความรักของเราเติบโตงอกงามเหมือนกับต้นไม้ที่สองเราช่วยกันดูแล”
               สวนเล็กๆแห่งนี้จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความใส่ใจที่ทุกคนในครอบครัวมีให้แก่กัน ช่างเป็นความรู้สึกอันแสนอบอุ่นและน่ารักเสียจริงๆ

อาภาศรี มีมานะ
สังวาล พระเทพ, สิทธิศักดิ์ น้ำคำ

  • สวนกระบะใส่ใจ สวนกระถางใส่รัก

Leave a Reply